
มติชน 6 ต.ค. 50 - จากกรณีที่คณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) มีมติเห็นชอบให้เริ่มต้นเจรจากับบริษัทเจ้าของสิทธิบัตรยามะเร็ง 4 รายการ คือ อิมาทินิบ (Imatinib), โดซีแท็คเซล (Docetaxel), เออร์โลทินิบ (Erlotinib) และเล็ทโทรโซล (Letrozole) ซึ่งเป็นยากลุ่มประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพเข้าไม่ถึง
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการชุดต่างๆ ทั้ง นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเจรจาต่อรองราคายา จะเริ่มดำเนินการเจรจากับบริษัทยาเจ้าของสิทธิบัตรเพื่อต่อรองราคาให้ถูกที่สุด หากสามารถตกลงกันได้ ก็จะไม่มีการทำซีแอลยาตัวนั้นๆ แต่หากเจรจาไม่สำเร็จ สธ. ก็จะพิจารณาประกาศซีแอลทันที รวมถึงจะต้องดำเนินการส่วนคณะกรรมการชุดของ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 11 ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ก็จะดำเนินการสั่งการให้ อภ. ตรวจสอบหาโรงงานผลิตยาสามัญที่มีคุณภาพต่อไป
"ผมคงจะประกาศว่า สธ.จะทำซีแอลกับยามะเร็งทั้ง 4 รายการเลยคงไม่ได้ เพราะเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นจะต้องรอให้มีการเจรจาต่อรองราคากับบริษัทเจ้าของสิทธิบัตรให้สำเร็จก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานกว่ากระบวนการเจรจาจะเสร็จสิ้น ซึ่งในช่วงที่ สธ.ประกาศทำซีแอลกับยาก่อนหน้านี้ 3 ชนิด คือ ยาต้านไวรัสเอดส์ เอฟฟาไวเรนซ์ และโลพินาเวียร์กับริโทนาเวียร์ (อะลูเวีย) และยาสลายลิ่มเลือดหัวใจและสมอง โคลพิโดเกรล (พลาวิกซ์) ต้องใช้เวลาเจรจานานถึง 2 ปี กว่าจะสำเร็จ แต่สำหรับยามะเร็งทั้ง 4 รายการ คงจะเจรจาเสร็จเร็วกว่า 2 ปีอย่างแน่นอน" รมว.สธ.กล่าว
ด้าน นพ.วิชัย ในฐานะประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานชุดของ นพ.ศิริวัฒน์ จะต้องเร่งเจรจากับบริษัทยาเจ้าของสิทธิบัตรให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็จะต้องตรวจสอบหาบริษัทยาสามัญที่มีคุณภาพเพื่อติดต่อให้มาขึ้นทะเบียนยาในประเทศไทยด้วย เพื่อเป็นการทำงานรวดเร็วควบคู่ไปพร้อมๆ กัน หาก สธ.จะประกาศซีแอลในยาตัวใด ก็สามารถทำการเสนอราคายาสามัญและขึ้นทะเบียนยาได้ทันที นอกจากนี้ ยังให้ สปสช.คำนวณปริมาณการใช้ยาอะลูเวียโดยสั่งซื้อยาจากบริษัท แมทริกซ์ แลบอราตอรีส จำกัด ประเทศอินเดีย ในราคา 695 เหรียญสหรัฐ ต่อคนต่อปี หรือประมาณ 2,027 บาทต่อคนต่อเดือน