
มติชน 18 ต.ค. 50 - ความคืบหน้าการดำเนินการคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ฤๅษีดัดตน" JPO ในประเทศญี่ปุ่น ฤๅษีดัดตนเป็นสมบัติของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย เนื่องจากเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นและรักษาไว้โดยพระมหากษัตริย์ของไทย เพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของคนไทยและเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม
นพ.ลือชา วนรัตน์ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการคัดค้านประเทศญี่ปุ่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ฤาษีดัดตน" ว่า หลังจากนายมาซากิ ฟุรุกะ (ผู้ได้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ฤๅษีดัดตน") ได้ยื่นคำโต้แย้งต่อสำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่น (Japan Patent Office : JPO) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2549 แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2550 JPO ได้มีคำวินิจฉัยเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ฤๅษีดัดตน" ที่ได้เคยให้ไว้แก่นายฟุระกะ ทั้งสองคำขอตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ยื่นคำคัดค้านการจดทะเบียนไว้
นพ.ลือชากล่าวว่า JPO ให้เหตุผลว่าการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวขัดต่อรัฐประศาสโนบาย และศีลธรรมอันดีของประชาชนตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าญี่ปุ่น มาตรา 4 (1) vii เนื่องจาก 1.ฤๅษีดัดตนเป็นสมบัติของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นและรักษาไว้โดยพระมหากษัตริย์ของไทย เพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของคนไทย และกลายเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม 2.นายฟุรุกะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยและไม่ได้เป็นคนไทย ได้ยื่นขอจดทะเบียนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) จึงถือได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ถึงแม้ว่านายฟุรุกะจะไม่ได้มีเจตนาที่ไม่สุจริตก็ตาม
3.การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักความซื่อสัตย์ระหว่างประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย ทั้งนี้ นายฟุรุกะสามารถอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ JPO ต่อ Intellectual Property High Court ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำวินิจฉัย ซึ่งขณะนี้พ้นกำหนดระยะเวลาที่อุทธรณ์ได้แล้ว และนายฟุรุกะไม่ได้อุทธรณ์ต่อศาล จึงถือว่าเป็นการประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า "ฤาษีดัดตน" เป็นสมบัติของชาติไทย