ฝนถล่มนาข้าวล่ม4หมื่นไร่

อีก1.3แสนไร่จ่อคิวพังยับ ส.ส.สุพรรณฯคาดรบ.ชดเชย414บ./ไร่
มติชน 19 มิ.ย. 51 - นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนว่า พื้นที่ อ.บางปลาม้า,สองพี่น้อง อ.อู่ทอง และ อ.เมืองสุพรรณบุรี ประสบภาวะน้ำท่วมทำให้นาข้าวล่มไปแล้วกว่า 40,000 ไร่ และอีกกว่า 1.3 แสนไร่ กำลังจะเสียหาย จากการประชุมร่วมกับชลประทาน จ.กาญจนบุรี และจ.พระนครศรีอยุธยา หาแนวทางประสานระบบเปิด-ปิดน้ำ ที่จะเข้าพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยจาก จ.กาญจนบุรีน้ำไหลมาทางคลองจระเข้สามพัน อ.อู่ทอง และจาก จ.พระนครศรีอยุธยามาจากประตูน้ำผักไห่ ลงเขต อ.บางปลาม้า
นายสมศักย์กล่าวว่า จากการประเมินสภาพน้ำท่วมพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนทางตอนเหนือของจังหวัดลดลง ประกอบกับฝนทิ้งช่วง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่พื้นที่น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออกจากพื้นที่ หากดึงน้ำในแม่น้ำท่าจีนลงสู่ทะเลจะทำให้น้ำที่เจิ่งนองทุ่งนาไหลลงแม่น้ำได้เร็วขึ้นถ้าหากฝนไม่ตกซ้ำ ปัจจุบัน จ.สุพรรณบุรีต้องรับภาระในการจ่ายค่าน้ำมัน วันละราว 400,000 บาท
นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ประสบน้ำท่วมว่า ที่ผ่านมาราคาข้าวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในวงการข้าว รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย ยาฆ่าแมง วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำนามีราคาแพงขึ้นทำให้ต้นทุนการทำนาสูงขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะพิจารณาในเรื่องค่าชดเชยนาล่ม จากเดิมไร่ละ 414 บาทแน่นอน แต่จะเป็นเท่าใดคงต้องคอยดูต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่น้ำท่วมพื้นที่มาอย่างยาวนานจนหลายแห่งโดยเฉพาะบริเวณบ้านดอนกระเบื้อง อ.สองพี่น้อง ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลกินเนื้อที่นับหมื่นไร่ ทำให้เกิดน้ำขังนิ่ง วัชพืชเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง สร้างมลพิษทางกลิ่นให้กับผู้อยู่อาศัยรอบด้าน และผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาระหว่าง อ.สองพี่น้อง-สุพรรณบุรี

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด