ภท.เสนอแก้รธน.4ประเด็น-ไม่พูดถึงนิรโทษกรรม

ประชาไท 25 เม.ย. 52 - นายประกิจ พลเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทย แถลงหลังการประชุมพรรคภูมิใจไทย วันที่ 24 เมษายนว่า คณะกรรมการได้มีการปะชุม และตีกรอบการเสนอข้อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะต้องอยู่บนผลประโยชน์ของสาธารณะ วันที่ 27 เมษายน จะมีการสรุปประเด็นการแก้ไข เพื่อเสนอต่อที่ประชุมพรรคในวันที่ 28 เม.ย.และให้หัวหน้าพรรคเสนอต่อคณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายกฯจะตั้งขึ้นต่อไป เบื้องต้นสาระสำคัญที่จะเสนอคือ
1.ที่มาของส.ส.เห็นว่าควรเป็นแบบเขตเดียว เบอร์เดียว ส่วนที่มาของส.ว.เห็นว่าหากเป็นการคัดสรรก็ให้เป็นการคัดทั้งหมด หากเลือกตั้งก็ให้เลือกตั้งทั้งหมด
2.มาตรา 190 ในเรื่องการทำสัญญาต่างๆ เห็นว่าควรให้สภารับรู้กรอบของสัญญา แล้วให้รัฐบาลไปดำเนินการทำงาน แล้วจึงให้รายงานผลการทำสัญญาต่อสภา
3.เรื่องการยุบพรรค เห็นว่าหากกรรรมการบริหารคนใดคนหนึ่งทำผิด ไม่ควรโยงไปถึงการยุบพรรค หรือเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด เพราะไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย 4.มาตรา 266 เรื่องการก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของข้าราชการโดยส.ส.เห็นว่า ควรทบทวนว่าอาจจะให้ส.ส.เป็นผู้ประสานงานได้หรือไม่ โดยพรรคคำนึงถึงกระแสต่อต้านเช่นกัน แต่เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ใช้มาระยะหนึ่งแล้ว มีข้อบกพร่องสามารถแก้ไขได้ และการแก้ไขไม่ช่การร่างใหม่ เป็นคนละเรื่องกัน
"ขณะนี้พรรคยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการนิรโทษกรรม ส่วนกรณีที่เริ่มมีกระแสต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ในส่วนของพรรคการเมืองมีหน้าที่เสนอความเห็นไปยังคณะกรรมการที่นายกฯจะตั้ง ขึ้นเท่านั้น ส่วนจะดำเนินการอย่างไรแล้วแต่คณะกรรมการ
"สมเกียรติ"จวกนิรโทษกรรม ปชช.ไม่เห็นด้วย
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในการอภิปรายในที่ประชุมร่วมกันของสองสภา ว่า ที่สมาชิกฝ่ายค้านโดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พูดถึงพันธมิตรฯได้รับการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ต่างจากกุล่มเสื้อแดง ขอชี้แจงว่า คดีของตน ผ่านตำรวจไปเกือบหมดแล้วและอยู่ในชั้นอัยการ และเร็วกว่า คดีหมิ่นฯที่คนบางคนโดน นอกจากนี้ ยังไม่ใช้เอกสิทธิ์ส.ส.ในการหลบเลี่ยงการถูกดำเนินคดี
ส่วนที่มีการบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ก็ขอเชิญพ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมด้วย ส่วนข้อเสนอการจับมือของเสื้อแดงและเสื้อเหลือง ยุทธศาสตร์ของพันธมิตรฯ คือการเมืองใหม่ คือประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ของเสื้อแดงคือสถาปนารัฐไทยใหม่ล้มศักดินา ก็ไม่รู้จะไปเจรจากันอย่างไร แต่ก็ยินดีจะคุย
นายสมเกียรติส่วนที่มีการอ้างว่า คดีการเมืองไม่เป็นธรรมโดยเฉพาะยุบพรรค เรื่องนี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีระบุชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนที่พยายามเสนอกฎหมายปรองดอง เป็นการปรองดองของนักการเมืองชัดเจน เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย นักการเมืองผิดก็ต้องแก้ที่พฤติกรรมผิดๆ ไม่ใช่มาแก้กฎหมาย นักการเมืองเป็นต้นเหตุ การนิรโทษกรรมจึงร้ายแรงต่อชาติ

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด