ส.อ.ท.จี้รัฐฟื้นวิถีชีวิตชาวบ้าน หวังปลุกสภาพธุรกิจกลับคืน

ส.อ.ท.แนะรัฐ เร่งฟื้นฟูความเป็นอยู่ประชาชน ในพื้นที่ประสบภัยภาคใต้ หวังชุบชีวิตสภาพธุรกิจให้กลับคืนมา พร้อมกระตุ้นติดสัญญาณเตือนภัย ในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น

นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.วานนี้ ได้สอบถามถึงผลกระทบภาคอุตสาหกรรมที่เกิดจากคลื่นยักษ์สึนามิในภาคใต้ ปรากฏว่า โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ แต่ภาพรวมแล้วอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) จะได้รับผลกระทบ ขณะที่เมื่อเกิดปัญหาในแหล่งท่องเที่ยวจะส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวลดลงชั่วคราว ดังนั้น ผลพวงดังกล่าวจะทำให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มียอดจำหน่ายลดลงบ้าง ขณะที่เมื่อมีความเสียหายทางด้านการก่อสร้าง ก็จะต้องมีการซ่อมแซมบ้านเรือนอยู่อาศัยและถนน ดังนั้น อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ก็จะได้รับผลบวก

นายประพัฒน์กล่าวว่า การท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการก็คือ จะต้องเร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจและความเชื่อมั่นของประชาชนทั้งในพื้นที่และนักท่องเที่ยวให้กลับคืนมา รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของเมืองไทยว่า ยังมีจุดอื่นที่น่าท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นทะเลทางด้านอ่าวไทย หรือแหล่งท่องเที่ยวบนบก ศาสนสถาน ด้านภาคเหนือ อีสาน และกลาง ซึ่งหากมีการประชาสัมพันธ์ที่ดีสร้างความสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว ก็เชื่อมั่นว่าเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวจะไม่ลดต่ำลง เพราะดูตัวอย่างได้จากประเทศญี่ปุ่น ที่ประสบปัญหาเรื่องแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

"ด้านท่องเที่ยวแม้จะกระทบบ้าง แต่ขออย่าให้ตกใจกันมากเกินไป รัฐบาลควรจะเร่งประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ และเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจของชาวบ้าน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น? นายประพัฒน์กล่าว

นายประพัฒน์กล่าวอีกว่า ส.อ.ท.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้สถานการณ์กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว ซึ่ง ส.อ.ท.ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะภาคใต้ ได้ระดมความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน

29 ธันวาคม 2547

หมวดหมู่ของข่าว: 

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด