ภาคประชาชนเดินหน้าถอดถอน ไชยา

๑. กระทำการ ที่เข้าข่ายให้รัฐเสียหายด้านงบประมาณแผ่นดิน โดยเฉพาะการประกาศทบทวนการใช้สิทธิโดยรัฐต่อยาต้านโรคมะเร็งที่มีสิทธิบัตร ๔ รายการ ทำให้บริษัทยาใช้อ้างเป็นเหตุว่าประเทศไทยใช้สิทธิโดยรัฐยังไม่สมบูรณ์ในกรณียาโคลพิโดเกรลในคนไข้โรคหัวใจ( Not Fully Implemented) และกลัวการถูกฟ้องร้องจากบริษัทยาต้นแบบ ทำให้บริษัทคาดิลาขอปรึกษานักกฎหมายและชะลอการนำเข้ายาจำนวน ๒.๑ ล้านเม็ดเป็นเวลา ๑ เดือน โดยมีมูลค่าความเสียหายต่อรัฐขั้นต่ำประมาณ ๒๔๘,๓๗๘,๕๕๐ ล้านบาท(สองร้อยสี่สิบแปดล้านสามแสนเจ็ดหมื่นห้าพันห้าร้อยล้านบาท)

โดยคำนวณจากอุบัติการณ์การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ประมาณ ๓๕๐ ต่อประชากรหนึ่งแสนคน ถ้าพิจารณาเฉพาะผู้ป่วยในระบบหลักประกันประมาณ ๔๗ ล้านคน จะมีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ ๑๖๔,๕๐๐ คน และในจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจนี้ ร้อยละ ๗๐ คือจำนวน ๑๑๕,๑๕๐ คน จะต้องใช้ยาต่อเนื่องวันละ ๑ เม็ด ทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย ๑ เดือน ดังนั้นต้องใช้ยาจำนวน ๓,๔๕๔,๕๐๐ เม็ด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐต่ำสุดประมาณ ๒๔๘,๓๗๘,๕๕๐ ล้านบาท(หากคิดราคายาต้นแบบเพียงประมาณ ๗๓ บาท และยาสามัญราคา ๑.๑๐ บาท )

๒. กระทำการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยประกาศทบทวนนโยบายการใช้สิทธิโดยรัฐต่อยาต้านโรคมะเร็งที่มีสิทธิบัตร ๔ รายการ ในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ โดยการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับทราบเป็นการทั่วไป นับเป็นการกระทำการทางการเมืองในการบริหารราชการแผ่นดินก่อนการดำเนินการแถลงนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งเป็นการประกาศนโยบายที่ขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพโดยการใช้บัตรประชาชนในการรับบริการสาธารณสุข

๓. มีคำสั่งและดำเนินการโยกย้ายข้าราชการที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใช้สิทธิโดยรัฐโดยไม่มีมูลความผิดใด ๆ ที่ชัดเจน และสั่งการด้วยวาจาในการโยกย้ายข้าราชการระดับปฏิบัติงานที่ปฏิบัติราชการโดยชอบในการปกป้องความเสียหายของรัฐในครั้งนี้

๔. นับตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการเข้ารับตำแหน่งยังไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ป่วยและผู้บริโภค แต่กลับดำเนินการที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูประบบสุขภาพและไม่ส่งเสริมสุขภาพในหลายพฤติการณ์ อทิเช่น การสั่งทบทวนการใช้สิทธิโดยรัฐในยามะเร็ง ๔ รายการ การให้สัมภาษณ์ให้สามารถโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอส์ในสื่อทั่วไป การให้ข่าวว่าจะทบทวนประกาศฉบับที่ ๑๘ เรื่องกำหนดชื่อหรือประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ เช่น ในร้านอาหารและสถานประกอบการปรับอากาศ

จากข้อกล่าวหาข้างต้นทั้ง ๔ ประการ นับว่า รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ทั้งในด้านกฎหมายและจริยธรรม สมควรที่วุฒิสภาจะดำเนินการถอดถอนจากตำแหน่ง

วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๑

หมวดหมู่ของเนื้อหาในเว็บ: