พิชญ์มีชื่อเสียงจากการทำวิทยานิพนธ์ 'ระบอบทักษิณ' แต่เขายืนยันว่าไม่มีปัญหากับรัฐบาล และเตือนว่าไม่ควรใช้การเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาต่อต้านรัฐบาล
"ย้ำแล้วย้ำอีกนะผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับรัฐบาล ไม่ได้กลัวด้วย แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งที่อันตรายก็คือประชาชนบางส่วนอาจจะใช้การเคลื่อนไหวเรื่องนี้เป็นจุดรวมในการต่อต้านรัฐบาล แล้วก็ใช้วิธีแบบเดิมๆ ผมคิดว่าสังคมเราบางครั้งไม่รู้ว่าอะไรเสี่ยงกว่ากัน การเป็นรัฐบาลที่โกงที่แย่ กับการมีพลังต่อต้านที่ไม่เข้มแข็งและแหลมคม มันอาจจะให้การต่อสู้เราสูญเสียมากกว่า ผมคิดว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน"
สิ่งที่เขาไม่เห็นด้วยคือ วิธีต่อต้านแบบปลุกกระแสรักชาติ คลั่งชาติ "ถ้าทำอย่างนี้ต่างชาติจะเข้ามาลงทุน ที่ดินจะหายไป แรงงานต่างชาติจะมาแย่งงาน"
"ผมกังวลการต่อสู้ที่ไม่แหลมคม การต่อสู้ที่ไม่เอามนุษย์เป็นตัวตั้ง มาคลั่งเรื่องสมบัติชาติ"
"การต่อสู้แค่นั้นมันไม่ได้ยกระดับจิตใจของมนุษย์ มันอยู่บนวิธีคิดความเห็นแก่ตัวทางเศรษฐกิจ เดี๋ยวแรงงานต่างด้าวจะมาแย่งงานเรา ความลุ่มหลงคลั่งชาติขนาดนั้นไม่ต่างจากที่คุณส่ง SMS ไป 94% เห็นว่าการจัดการพี่น้องชาวใต้ชาวมุสลิมเป็นเรื่องปกติ"
"เคลื่อนไหวน่ะได้ แต่เอาคนเป็นตัวตั้ง อย่าเอาสมบัติเป็นตัวตั้ง อย่าเอาความคลั่งชาติเป็นตัวตั้ง"
พิชญ์เห็นว่าประเด็นสำคัญที่ต้องตั้งคำถามกับรัฐบาลเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ คือคุณภาพชีวิตของคน หลักประกันในสิทธิขั้นพื้นฐาน คุณภาพของสิ่งแวดล้อม มากกว่าเกี่ยงเรื่องแรงงานต่างด้าวหรือทุนข้ามชาติเช่าที่ดิน โดยคุณภาพชีวิตคนนั้นก็ควรรวมถึงแรงงานต่างด้าวที่เป็นคนเหมือนเรา เพราะไม่เช่นนั้น สังคมก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนในกรณีที่เขาเจ็บป่วยเป็นโรคติดต่อหรือก่ออาชญากรรม
"มันเป็น standard line มากเลย เป็นเส้นมาตรฐานในการต่อต้านทุนด้วยความรักชาติ ต่างชาติจะซื้อ 50 ปี 99 ปี หรือเช่าวันต่อวัน คำถามใหญ่คือทำอย่างนั้นแล้วมันทำให้ความเป็นมนุษย์ของเรามีมากขึ้นหรือเปล่า พวกนี้เป็นเรื่องปลีกย่อย แต่เป็นเรื่องปลีกย่อยอันทรงพลัง มันทำให้นายทุนชาติร่วมขบวนการต่อสู้ มันทำให้แรงานชาติร่วมขบวนการต่อสู้ แต่มันไม่ได้ทำให้ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ลดลง"
6 กุมภาพันธ์ 2548