กรรมการสิทธิฯ ประชุมสอบปม"บิลลี่" หายตัวลึกลับ จี้ตร.เร่งสืบอาวุธประจำกายจทน.อุทยานฯหาหลักฐานโยงหายตัวปริศนา ยันพร้อมลงพื้นที่แก่งกระจาน</p>
<p>น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เป็นประธานการประชุมตรวจสอบกรณีการหายตัวไปของนายบิลลี่ หรือพอละจี รักจงเจริญ อายุ 31 ปี ชาวกระหร่าง ที่ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนายแพทย์นิรันดร์ ระบุว่าว่า เรื่องนี้มีความรุนแรงต่อนายบิลลี่ที่เกิดขึ้น จึงต้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาชี้แจงในวันนี้</p>
<p>นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเพชรบุรี ชี้แจงว่า นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรยุรี ติดภารกิจไปถวายพระพร ตนจึงเป็นตัวแทนการประชุม โดยกรณีนี้ในเรื่องกระบวนการสืบสวนนั้น ภายหลังจากที่น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ไปยื่นหนังสื่อให้ทางจังหวัดช่วยติดตามตัวสามี จากนั้นทางจังหวัดได้สังการยังไปอ.แก่งกระจาน และตำรวจภูธรจ.เพชรบุรีให้ดำเนินการหาตัวนายบิลลี่ตามที่ภรรยาร้องขอ และทำหนังสื่อถึงพนักงานปกครองจังหวัดดำเนินการติดตามหัวตัวนายบิลลี่แล้วรายงานกลับมาที่จังหวัดอีกครั้ง</p>
<p>ด้านพ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.แก่งกระจาน กล่าวว่า ทางผู้บังคับการได้มอบหมายให้ตนมาประชุมแทน เนื่องจากผู้บังคับติดประชุม โดยกรณีนี้เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ ได้แจ้งความภายหลังจากนายบิลลี่หายไป จากนั้นก็มีการสอบพยานที่เกี่ยวข้อง มีการลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุทุกเส้นทาง รวมกับทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านจำนวนหลายร้อยคน แต่กรณีนี้ยังเป็นเรื่องคนหายผลัดหลง ยังไม่ได้เป็นคดีอาญา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความสำคัญเรื่องคนหาย และยืนยันจะดำเนินการให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องนี้จะเป็นคดีอาญาหรือไม่ต้องอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ขณะที่ประเด็นที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ปล่อยตัวนายบิลลี่นั้นจะไปสอบสวนอีกครั้งว่าเป็นดุลพินิจใด และเหตุใดนายชัยวัฒน์ต้องมีการปล่อยตัวนายบิลลี่ในจุดนั้น</p>
<p>ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งอนุกรรมการฯหลายคนได้พยายามสอบถามพ.ต.อ.วรเดช ถึงกระบวนการสอบสวน การตรวจสอบพยานและการหาหลักฐาน ภายหลังนายบิลลี่หายตัวไป โดยเฉพาะเรื่องอาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่อุทยานที่ได้ควบคุมตัวนายบิลลีในวันนั้นว่าเป็นอาวุธชนิดใดมีการเบิกจ่ายอาวุธอย่างไร ที่สำคัญขอทางขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหารถมอเตอร์ไซค์ของนายบิลลี่ซึ่งจะเป็นหลักฐานที่สำคัญในการคลี่คลายคดี โดยส่วนหนึ่งได้มีการเปรียบเทียบกับการหายตัวของนายสมชาย นีละไพจิตร นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ว่าเป็นบุคคลที่สูญหายเช่นเดียวกับนายบิลลี่ เรื่องนี้จึงมีความสำคัญที่สังคมกำลังติดตามนพ.นิรันดร์ กล่าวสรุปการประชุมว่า อยากให้นายจตุพจน์ และพ.ต.อ.วรเดชทราบว่ากรณีนายบิลลี่หาย เคยมีความสัมพันธ์เรื่องความขัดแย้งหลายอย่างในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้คนทั้งประเทศกำลังให้ความสนใจว่านายบิลลี่ จะเสียชีวิตจากหน่วยงานของรัฐหรือไม่ จึงอยากให้มีการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ในฐานะที่นายบิลลี่ลุกขึ้นมาต่อสู้ให้ส่วนรวม ดังนั้นการคลี่คลายคดีนี้เชื่อว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางกรรมการสิทธิฯจะขอติดตามไปตรวจสอบด้วย ซึ่งในกรณีนีไม่ใช่ว่ากรรมการสิทธิฯไม่ไว้ใจ แต่เป็นเรื่องความโปร่งใส จึงยังหวังว่านายบิลลียังมีชีวิตอยู่