สหกรณ์ร่วมระบายลิ้นจี่ภาคเหนือ ผ่านศูนย์กระจายสินค้า-คาดทะลุ2.1พันตัน

<p>นายวินัย กสิรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดประชุมเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตลิ้นจี่ในฤดูกาลผลิตปี 2557 ของสถาบันเกษตรกร โดยเชิญตัวแทนสหกรณ์ผู้ปลูกลิ้นจี่ 9 แห่งจากจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา และน่าน มาร่วมหารือถึงแนวทางในการสร้างความร่วมมือดำเนินธุรกิจซื้อขายลิ้นจี่กับสหกรณ์ที่มีศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ 10 แห่ง ใน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี สิงห์บุรี ชัยนาท ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สกลนคร บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์และระยอง เพื่อช่วยเหลือในการกระจายผลผลิตลิ้นจี่ออกนอกแหล่งผลิต โดยตั้งเป้าจะสามารถระบายผลผลิตออกสู่ตลาดได้ประมาณ 2,100 ตัน โดยแบ่งเป็นการกระจายลิ้นจี่ตามกลไกตลาดปกติจำนวน 1,000 ตัน และจะเพิ่มปริมาณการรวบรวมในช่วงที่ผลผลิตออกจำนวนมากในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมอีก 1,000 ตัน และยังสนับสนุนให้สหกรณ์ดำเนินโครงการนำร่องในการขนส่งลิ้นจี่โดยใช้กล่องโฟม เพื่อรักษาคุณภาพผลผลิต เน้นส่งจำหน่ายให้กับตลาดที่มีระยะทางไกล เช่นจังหวัดทางภาคใต้ อีกจำนวน 100 ตัน และยังได้ประสานงานกับห้างโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ห้างแมคโครและเทสโก้โลตัส ซึ่งสหกรณ์ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการรับซื้อผลผลิตของสหกรณ์ไปวางจำหน่ายในสาขาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง</p>
<p>ทั้งนี้ ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายลิ้นจี่ระหว่างสถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตรและโมเดิร์นเทรด เมื่อวันที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็นการลงนามคู่ค้า ระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิตลิ้นจี่จากจังหวัดพะเยา จะส่งลิ้นจี่จำหน่ายให้กับสหกรณ์ในจังหวัดศรีสะเกษและร้อยเอ็ด สหกรณ์ผู้ผลิตลิ้นจี่จากจังหวัดเชียงราย จัดส่งลิ้นจี่ให้กับสหกรณ์ในจังหวัดสิงห์บุรีและปทุมธานี สหกรณ์ผู้ผลิตลิ้นจี่จากจังหวัดน่านจะส่งลิ้นจี่ให้กับสหกรณ์ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และบุรีรัมย์ และสหกรณ์ผู้ผลิตลิ้นจี่จากจังหวัดเชียงใหม่จะส่งลิ้นจี่ให้สหกรณ์ในจังหวัดระยองและห้างแมคโคร ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์วงเงิน 25 ล้านบาท ให้สหกรณ์ผู้ผลิตลิ้นจี่ใช้ในการรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก 10 ล้านบาทและสหกรณ์ปลายทางที่รับซื้อลิ้นจี่จากสหกรณ์ภาคเหนืออีก 15 ล้านบาท สำหรับใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการบริหารจัดการผลผลิตลิ้นจี่ในช่วงฤดูกาลปี 2557</p>
หมวดหมู่ของข่าว: 

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด