ร้องศูนย์ดำรงธรรมจ.เลย สอบเอกชนหัวใส เช่าช่วงต่อประทานบัตรเหมืองหิน ก่อนลงทุนสร้างโรงโม่หิน-เครื่องจักรใหม่ ร่วมใช้ทรัพายากร แต่ไม่จ่ายค่าภาคหลวงรัฐนับร้อยล. เผยยื่นเรื่องให้จนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบหลายครั้ง ก่อนเงียบหาย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย ให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกิจโรงโม่หินของเอกชนรายหนึ่ง ที่เช่าโรงโม่หินและเช่าช่วงประทานบัตรเหมืองหินต่อมาจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัดรายหนึ่ง ในจ.เลย ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2551 แต่ปรากฎว่าเอกชนรายนี้ ที่มาเช่าช่วงได้เข้าไปก่อสร้างและติดตั้งเครื่องโม่หินเพิ่มเติมและมีการใช้ทรัพยากรของเหมืองเดิมที่เข้าช่วงต่อมา กับโรงโม่หินที่สร้างขึ้นใหม่ด้วย
ขณะที่การชำระค่าภาคหลวงแร่ทุกเดือน ไม่ได้มีการแจ้งปริมาณแร่หินที่ขนมาจากโรงโม่หินใหม่ที่เข้าไปสร้างเพิ่มเติม ชี้ให้เห็นเจตนาที่จะหลบเลี่ยงการนำทรัพยากรของประเทศไปใช้เพื่อหาประโยชน์ส่วนตน โดยไม่จ่ายค่าตอบแทนให้รัฐ ซึ่งคิดเป็นหลักร้อยล้านบาท
"ที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนเรื่องนี้ไปถึงข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหายไปทำให้ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข รัฐเสียหายเป็นจำนวนเงินนับร้อยล้านบาท แทนที่จะได้เงินส่วนนี้มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง หจก.ที่ถูกระบุชื่อว่าเป็นเจ้าของประทานบัตรเหมืองหิน ที่ปรากฎอยู่หนังสือร้องร้องดังกล่าว เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ตัวแทนหจก.ระบุว่า ยังไม่สะดวกที่จะชี้แจง เพื่อกำลังอยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลเอกสารเพื่อฟ้องร้องคู่สัญญา