เอเอฟพี - ฟิลิปปินส์แถลงเมื่อวานนี้(1) จะยอมจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 70% ภายในปี 2030 ก็ต่อเมื่อประเทศชาติพัฒนาแล้วยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
เอเอฟพีรายงานในวันพฤหัสบดี(1)ว่า แผนการจำกัดและปรับเปลี่ยนของฟิลิปปินส์ส่งไปให้กับคณะกรรมการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้ยูเอ็น ที่กำกับดูแลกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ UNFCCC เมื่อวานนี้(1) หลังจากที่แผนการนี้ได้รับการเห็นชอบจากประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เบนิกโน ซีเมออน โกฮวงโก อากีโน ที่ 3 แล้ว เฮอร์มิริโอ โคโลมา (Herminio Coloma) โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กล่าวผ่านแถลงการณ์
และหากแผนการข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติ คาดว่าฟิลิปปินส์จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงถึง 70% ภายในปี 2030 จากระดับ 20,000 ลูซิล เซริง (Lucille Sering)หัวหน้าคณะกรรมการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของฟิลิปปินส์แถลง
เอเอฟพีรายงานว่า การยื่นของฟิลิปปินส์ครั้งนี้มีขึ้นล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดการประชุมประจำปีว่าด้วยภาวะโลกร้อนที่กรุงปารีสในปลายปีนี้
โคโลมาแถลงต่อว่า "แผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 70% ของฟิลิปปินส์ เป็นเงื่อนไขที่จะได้รับการปฎิบัติหากว่าทางมานิลาได้รับความช่วยเหลืออย่างพอเพียงด้านการเงิน การพัฒนาเทคโนโลยีและส่งผ่าน และรวมไปถึงความสามารถในการสร้างไปให้กับฟิลิปปินส์หลังเสร็จสิ้นการประชุมภาวะโลกร้อนที่กรุงปารีสในช่วงเดือนธันวาคมไปแล้ว"
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในการประชุมภาวะโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกนในปี 2009 ได้ตั้งเป้าเพื่อจะจำกัดไม่ให้อุณหภูมิสูงไปกว่า 2 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ยุคก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรม แต่อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าระดับนี้สามารถก่อให้เกิดภัยแล้ง และวิกฤตหายนะ แต่ทว่านักวิทยาศาสตร์ต่างออกมารับรองว่า "ยังพอควบคุมได้"
แต่ทว่าผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อบรรดาชาติที่พัฒนาแล้ว ต้องร่วมมือในการจำกัดเพดานการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ก่อนปี 2020 และชาติกำลังพัฒนา ที่รวมไปถึง ฟิลิปปินส์ ทำเช่นเดียวกันในทศวรรษถัดมา
และในการแถลงข่าวของโฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เซริงกล่าวว่า มีประเทศทั้งหมด 136 ประเทศได้ส่งโครงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปให้กับองค์การสหประชาชาติพิจารณา