อ้าง 'ม.44-พ.ร.บ.ชุมนุม' ควบคุมการแสดงความเห็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ชัยภูมิ

รายงานโดย หนูนา พาโชค
2 ตุลาคม 2558

ทหารอ้าง มาตรา 44 ให้ชาวบ้านถอดเสื้อเครือข่ายรักษ์บำเหน็จณรงค์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน สกรีนข้อความต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ

นักข่าวพลเมืองรายงานว่าเครือข่ายรักษ์บำเหน็จณรงค์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ร่วม 100 คน สวมเสื้อสีขาวสกรีน “ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน” เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเฝ้าระวังติดตามความคิดเห็นของประชาชนต่อการประกอบกิจการของ บริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) ในวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2558 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเพชร อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ แต่เจอ พันโทสุรชัย ชอบชื่น รองหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ (ฝ่ายทหาร ไล่ออกจากห้องประชุม ถ้าแข็งขืนจะจับไปปรับทัศนคติ “การใส่เสื้อคัดค้านมันเป็นการสร้างความแตกแยก ไม่ปรองดอง ตอนนี้บรรยากาศกำลังอยู่ในความปรองดอง ใส่เสื้อคัดค้านมันผิด ม.44 ซึ่งเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ทำให้คนเขามองมาที่จังหวัดไม่ดี ว่ามีคนคัดค้าน ภาพออกไปก็จะไม่ดี ถ้าใครไม่ถอดเสื้อให้ออกไป ไม่ให้เข้าร่วมประชุม เดี๋ยวจะโดนจับไปปรับทัศนคติ” หลังจากที่พันโทสุรชัยกล่าวด้วยวาจาก้าวร้าวพร้อมชี้นิ้วออกคำสั่งจึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ถอดเสื้อออกทันที เหลือเพียงชาวบ้านบางคนที่ไม่สามารถหาเสื้ออื่นมาใส่แทนจึงได้ถอดเสื้อกลับด้านไม่ให้เห็นตัวหนังสือคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินใส่กลับเข้าไปใหม่

นอกจากนั้นแล้วในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกกฎหมายห้ามชุมนุมขึ้นมาพูดจาข่มขู่ชาวบ้านเสียจนทำให้ชาวบ้านแตกกระจายไปอยู่ตามร่มไม้ชายคารอบสำนักงาน อบต.บ้านเพชร ไม่สามารถรวมตัวกันได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชาวบ้านที่สวมเสื้อคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดความกลัวต่ออำนาจรัฐทหาร จนบางคนถึงกลับไม่กล้าสวมเสื้อ บางคนกลับด้านเสื้อที่เขียนข้อความคัดค้านไว้ด้านในทั้งชาวบ้านที่นั่งอยู่ในห้องประชุมและนั่งถกเถียงกันอยู่รอบนอกก็ไม่กล้าสวมเสื้อหรือชูป้ายผ้าคัดค้าน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจะข่มขู่บังคับไม่ให้ชาวบ้านใส่เสื้อค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเข้ามาในห้องประชุม แต่ตัวแทนบริษัทโปแตชกลับสามารถใส่เสื้อปักคำว่า “โปแตชชัยภูมิ” ที่แขนเสื้อ และมีตราสัญลักษณ์ของบริษัทฯ ที่หน้าอกซึ่งเป็นการโฆษณาและสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัทฯ ได้โดยไม่ถูกสั่งห้ามเหมือนชาวบ้าน

ที่ประชุมดังกล่าวนำโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม สมาชิก อบต. 3 ตำบล ได้แก่ อบต.บ้านเพชร อบต.บ้านตาล และ อบต.หัวทะเล ฝ่ายความมั่นคง และภาคประชาชน ชาวบ้านบางคนเล่าว่าทราบข่าวการประชุมจากการบอกต่อๆกันไปในกลุ่มผู้คัดค้านนอกจากการใช้ ม.44 สั่งห้ามสวมเสื้อแล้ว ทหารยังมีท่าทีข่มขู่ชาวบ้านที่แสดงความเห็นต่างอยู่ตลอดเวลา“ปลากินไม่ได้ต้องย้ายบ้านหนี แล้วจะสร้างไปทำไมโรงไฟฟ้า”สิ้นเสียงประโยคข้างต้นของลุงท่านหนึ่งซึ่งโยนคำถามลงไปในวงประชุมก็ถูกข่มขู่จากพันโทสุรชัยที่นั่งประชุมอยู่หัวโต๊ะข้างรองผู้ว่าฯทันที“ตอนนี้บรรยากาศเขากำลังพูดคุยกันด้วยดี จะมาพูดสร้างความแตกแยกทำไม ขอให้หยุดแสดงความเห็นที่สร้างความแตกแยกแบบนี้”

ถึงแม้บรรยากาศส่วนใหญ่ของการประชุมจะถูกควบคุมให้สงบเรียบร้อยโดยพันโทสุรชัย แต่ชาวบ้านก็พยายามตั้งคำถามขึ้นมาหลายประเด็นที่นักวิชาการหรือบริษัทที่ปรึกษาจากบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งถูกว่าจ้างให้จัดทำรายงานอีไอเอโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวไม่สามารถตอบคำถามให้กระจ่างชัดจนสิ้นสงสัยได้ เช่น ความห่วงกังวลเรื่องผลกระทบจากฝุ่นละออง การเผาไหม้ มลพิษในชั้นบรรยากาศ การขนส่งลำเลียงการเยียวยาด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของคนทั้งอำเภอหากก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อรองรับการเปิดเหมืองแร่โปแตชและอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากเกลือที่ถูกขุดขึ้นมา มีแต่การฉายสไลด์เพื่ออธิบายผลกระทบด้านบวกที่ได้จากการจ้างงาน และผลประโยชน์ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะได้รับผ่านภาษีประเภทต่าง ๆ และการไปดูงานการทำเหมืองแร่ถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่แม่เมาะ โรงงานคัดขนาด จัดเก็บและขนถ่ายถ่านหินของบริษัท SCG เทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดอยุธยา และโรงไฟฟ้าของบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ จำกัด จังหวัดปทุมธานี เท่านั้น

หลังฉายสไลด์เสร็จ ชาวบ้านคนหนึ่งลุกขึ้นถามว่า “การขนส่งถ่านหินจะเกิดรับผลกระทบอย่างไร ใช้พลังงานอื่นทดแทนถ่านหินได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่จากบริษัททีมฯตอบกลับว่า “ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำอีไอเอเท่านั้น และเวทีนี้เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำรายงานอีไอเอ”ส่งผลให้ชาวบ้านยิ่งเกิดความไม่พอใจยิ่งขึ้นที่ทั้งไร้คำตอบจากที่ประชุมและเหมือนถูกหลอกให้มาร่วมเวทีการจัดทำรายงานอีไอเอโดยไม่รู้ตัวมาก่อน และเมื่อยิ่งมีคำถามมากขึ้นกลับได้รับการข่มขู่จากพันโทสุรชัยอยู่ตลอดเวลาว่าเกิดผลเสียต่อบรรยากาศการพูดคุยซึ่งกำลังเป็นไปด้วยดี แต่กลับมาตั้งคำถามสร้างความแตกแยก

โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งนี้มีกำลังผลิต 55 เมกกะวัตต์ โดยจะนำถ่านหินมาจากประเทศออสเตรเลียและอินโดนีเซียผ่านการขนส่งทางเรือที่จังหวัดอยุธยา และขนขึ้นรถบรรทุกมายังโรงไฟฟ้าเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการแยกแร่โปแตช

หมายเหตุการแก้ไขข้อมูลเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2558 นักข่าวพลเมืองแจ้งการแก้ไขข้อมูลว่า นายทหารที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยในการประชุม คือ พ.ท.สุรชัย ชอบชื่น รองหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ (ฝ่ายทหาร)

แหล่งข่าว: 
ประชาไทออนไลน์

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด