ลำปาง - พ่อเฒ่าชาวแม่เมาะ วัย 66 เสียชีวิตเป็นรายที่ 21 หลังได้รับเงินชดเชยผลกระทบซัลเฟอร์มาใช้หนี้สิน และรักษาตัวได้ไม่ถึง 6 เดือน แถมยังมีน้อง-หลานสาวที่ป่วยอยู่อีก
วันนี้ (7 ต.ค.) นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ เปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมา นายทวี พรมวิชัย อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 3 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่ได้รับสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระหว่างปี 2535-2541 ได้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 21 ขณะนี้ทางญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้าน และจะทำการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) ที่จะถึงนี้
สำหรับนายทวี พรมวิชัย เป็นผู้ป่วยที่ได้ยื่นฟ้อง กฟผ.ต่อศาล จนกระทั่งศาลปกครองสูงสุดจังหวัดเชียงใหม่พิพากษา สิ้นสุดคดีในช่วงบ่ายวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ป่วยต่อสู้กันมายาวนานร่วม 11 ปี รวมทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และนายทวีได้รับเงินชดเชยเมื่อเดือนเมษายน 2558 เป็นเงิน 246,900 บาท เมื่อได้เงินแล้วก็ได้นำไปใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ที่ได้กู้ยืมเงินมาเป็นค่ารักษาตัวเอง และใช้จ่าย ในช่วงก่อนที่ศาลจะพิพากษา และเหลือเพียงบางส่วนในการดำรงชีวิตเท่านั้น จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ในครอบครัวของนายทวียังคงมีน้องสาว และหลานสาว ที่ได้รับสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และเจ็บป่วยอยู่ ณ เวลานี้อีก 2 คน
นางมะลิวรรณเผยว่า แม้ศาลจะพิพากษาให้ผู้ป่วยทั้งหมดที่แพทย์ยืนยันว่าได้รับสารซัลเฟอร์จริงให้ได้รับการเยียวยาแล้วก็ตาม หากถามว่าคุ้มไหม ทุกคนคงบอกว่าไม่คุ้ม เพราะระยะเวลาที่แก้ไขปัญหาให้กับผู้ได้รับผลกระทบยาวนานเกินกว่า 11 ปี หากได้รับการช่วยเหลือและเยียวยารวดเร็วคิดว่าชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ป่วยน่าจะดีกว่านี้
ดังนั้น จึงอยากฝากข้อคิดไว้กับทุกหน่วยงานที่จะทำอะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อชาวบ้าน ขอให้มีความจริงใจในการป้องกันและจริงใจในการแก้ปัญหาและต้องทำด้วยความรวดเร็วด้วย