13 ต.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นายสุรพงษ์ กองจันทึก กรรมการกำหนดแนวทางการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 23 มีนาคม 2553 เรื่องการให้สิทธิ(คืนสิทธิ)ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้สิทธิ(คืนสิทธิ)ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขแก่บุคคลที่มีปัญหาด้านสถานะและสิทธิบางกลุ่ม จำนวนปัจจุบัน 465,992 คน และต่อมามีมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 20 เมษายน 2558 อนุมัติเพิ่มอีกบางกลุ่ม จำนวนปัจจุบัน 160,035 คน ซึ่งทั้งหมดสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลฟรี โดยแสดงบัตรประจำตัวที่มีเลขประจำตัว 13 หลักต่อสถานพยาบาลในพื้นที่
ส่วนกลุ่มนักเรียนในสถานศึกษา จำนวน 76,540 คน คณะรัฐมนตรีวันที่ 20 เม.ย. 2558 มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องและรับรองการขึ้นทะเบียนก่อน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป กลุ่มดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียนในสถานศึกษาที่ไม่มีเลขประจำตัว 13 หลัก เนื่องจากตกหล่นจากการสำรวจและจัดทำทะเบียนราษฎร ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำระบบเลขนักเรียน 13 หลักเพื่อเป็นทะเบียนรองรับตัวบุคคลและตรวจสอบตัวตนได้ โดยนักเรียนในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะกำหนดตัว G เป็นตัวแรกของเลข ส่วนนักเรียนในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)จะกำหนดตัว P เป็นตัวแรกของเลข
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีนักเรียนที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ในฐานข้อมูลเป็นกลุ่ม G 66,983 คน และกลุ่ม P 568 คน และกำลังรอตัวเลขของนักเรียนในสังกัดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งมีการสำรวจและจัดทำข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งคาดว่ามีจำนวนประมาณ 1,000 คน จากนั้นจะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรีได้ในวันที่ 15 ธันวาคม 2558