ม็อบปากมูลร้องนายกฯ ผู้ว่าฯอุบลสั่งปิดเขื่อนก่อนสัญญา

"ม็อบเขื่อนปากมูล"ร้องนายกฯ ระบุผู้ว่าฯอุบลสั่งปิดเขื่อนก่อนสัญญา พร้อมทวงถามคืบหน้าแก้ไขปัญหา หากไม่แก้ไขก่อม็อบหน้าศาลากลางอุบลฯ28ต.ค.นี้

ศูนย์บริการประชาชนฯ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งสำนักงานก.พ.ถนนพิษณุโลก) มีกลุ่มประชาชนจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จำนวน 20 คน นำโดยนายกฤษกร ศิลารักษ์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล เข้าทวงถามความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาที่ดินที่เกิดจากการสร้างเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี ที่จะสั่งปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล ทั้งๆที่เปิดมาไม่ถึง 3 เดือน ต่อหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล โดยมีนายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล) เป็นผู้รับเรื่องในครั้งนี้

นายกฤษกร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมาในการแก้ไขความเดือดร้อนที่เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนปากมูลนับเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว แต่คณะกรรมการฯ ยังไม่ดำเนินการใด ๆ ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหา ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ ยังมีการแต่งตั้งคณะทำงานทำงานอีก 2 คณะที่ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ว่าราชการจ.อุบลราชธานี ได้กำหนดให้มีการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหามากยิ่ง และรัฐบาลยังไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับทางกลุ่มฯว่าเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี และเห็นควรว่าต้องเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดเขื่อนรายละ 310,000 บาท ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวได้เรียกร้องมาตั้งแต่สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบันยังไม่คืบหน้าใด ๆ

"การปิดเขื่อนครั้งนี้เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ซึ่งผู้ว่าฯอ้างเหตุผลการปิดเขื่อนว่ามาเกิดจากภัยแล้ง ทั้งที่จ.อุบลฯ มีปริมาณเพียงพอ ไม่มีปัญหาภัยแล้งแต่อย่างใด ซึ่งทางกลุ่มฯ ต้องการหารือกับม.ล.ปนัดดา แต่หากม.ล.ปนัดดาไม่มาเจรจาก็จะนัดชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.อุบลฯ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งกลุ่มฯ ไม่กลัวว่าจะขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แน่นอน เพราะไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองและทางกลุ่มเป็นผู้ประสบปัญหาจริง"นายกฤษกร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าในภายหลังกลุ่มฯได้รอเจรจาจาก หม่อมหลวงปนัดดานานว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้รับการเจรจาแต่อย่างใด จึงเคลื่อนขบวนมายังบริเวณประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชษฐ ถนนพิษณุโลก ก่อนอ่านข้อทวงถามและวางหนังสือร้องเรียนถึงม.ล.ปนัดดาไว้หน้าประตูทำเนียบรัฐบาล ต่อมาเวลา 11.15 น. นายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาพบกลุ่มฯ ที่ห้องประชุม 5 ชั้น 2 สำนักงาน ก.พ. พร้อมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น

โดยการพูดคุยนายกฤษกร กล่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้อ้างเหตุผลเรื่องภัยแล้งจึงจำเป็นต้องปิดประตูเขื่อนปากมูลในวันที่ 27 ตุลาคม 58 ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาและไม่ได้ใส่ใจ ที่จะแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน และเสนอให้มีการนำปัญหาดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลที่มี มล.ปนัดดา เป็นประธาน ในวันพรุ่งนี้(27ต.ค.) แต่ขณะนี้วาระการประชุมดังกล่าวยังไม่แจ้งให้ทราบว่ามีวาระการประชุมเรื่องใดบ้าง และขอให้แจ้งวาระการประชุมให้กลุ่มทราบด้วย พร้อมทั้ง ให้มีการยุบคณะกรรมการประเมินผลการเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

นายกมล ได้กล่าวชี้แจงว่า จากการที่ได้รับฟังแล้วสรุปได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์จากหลายๆส่วน เนื่องจากหากมีการปิดเขื่อนจะมีฝ่ายหนึ่งได้ผลประโยชน์ แล้วอีกฝ่ายจะเสียประโยชน์ แต่หากว่ามีการเปิดเขื่อนฝ่ายที่ได้ประโยชน์ก็จะเสียประโยชน์แต่ฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็จะได้ประโยชน์ เราจึงทำการประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ตามที่กลุ่มฯได้เรียกร้อง ให้พูดคุยถึงรายละเอียดต่างๆที่จะนำไปประชุมในวันพรุ่งนี้ และสำหรับการแก้ไขอื่นๆนั้น เราก็จะดูแลให้ทุกๆส่วนได้ประโยชน์ที่เท่าๆกัน เพื่อลดความขัดแย้ง

แหล่งข่าว: 
กรุงเทพธุรกิจ

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด