สภายุโรปผ่านร่างกฎหมายความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ตท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่กฎหมายมีความคลุมเครือ เอื้อต่อช่องทางหลบเลี่ยงและมีโอกาสเอื้อต่อกลุ่มธุรกิจมากกว่าประชาชน ทำให้ขัดต่อหลักการเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เท่าเทียมกัน แต่กรรมาธิการยุโรปก็โต้แย้งในประเด็นเหล่านี้
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2558 สภายุโรปลงมติเห็นชอบให้มีการยกเลิกเก็บค่าบริการข้ามแดนหรือโรมมิง (Roaming) ภายในเดือน มิ.ย. 2560 อีกทั้งยังมีการลงมติผ่านร่างกฎหมายความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ต (net neutrality) ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นครั้งแรก
การลงมติดังกล่าวของสภายุโรปเป็นไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อกฎหมายใดๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายฉบับนี้ว่ามีช่องทางหลบเลี่ยงกฎหมายได้มากและถือเป็นอันตรายต่อการเปิดกว้างทางอินเทอร์เน็ต
กฎหมายความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ตมาจากแผนการที่คณะกรรมาธิการยุโรปมีข้อเสนอให้จัดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมแบบตลาดเดียวเชื่อมต่อทั้งทวีปโดยบอกว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมการแข่งขันระหว่างยุโรปกับทั่วโลกและเพื่อส่งเสริมงานด้านดิจิทัลโดยลดการอยู่อย่างกระจัดกระจายของตลาด
อันดรู อันซิป รองประธานกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่ากฎหมายความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ตของยุโรปฉบับปัจจุบันจะส่งผลดีต่อชาวยุโรป โดยจะทำให้ "ไม่มีการปิดกั้น ไม่มีการบีบให้เข้าถึงได้ช้าลง และไม่มีการต้องจ่ายเงินเพื่อให้ตัวเองเข้าถึงได้เร็วกว่า"
อย่างไรก็ตามมีผู้วิจารณ์ว่าการกฎหมายความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ตของยุโรปจะเป็นกลางแค่ในนามเท่านั้นเพราะองค์ประกอบของข้อตกลงมีการอนุญาตให้เปิด "ช่องทางด่วน" สำหรับข้อมูลทำให้เจ้าของเครือข่ายลดการบริการหรือมีอำนาจในการปรับเปลี่ยนความแออัดของการส่งข้อมูลได้ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ต โดยหลักการความเป็นกลางของอินเทอร์เน็ตระบุว่าเส้นทางการส่งผ่านข้อมูลของทุกเครือข่ายควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้นักวิจารณ์ยังเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฉบับนี้เพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นจุดอ่อนออกไปเช่นส่วนที่เอื้อต่อการทำให้เกิดอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วไม่เท่ากัน 2 แบบ โดย มาริตเจ ชฮาเกอ หนึ่งใน ส.ส.ยุโรปเรียกร้องให้ข้อกฎหมายที่มีความกำกวมมีความชัดเจนมากกว่านี้ นอกจากนี้ยังวิจารณ์อีกว่าในการหารือเรื่องนี้มีการให้ความสนใจต่อผลประโยชน์ของบริษัทโทรคมนาคมมากกว่าและให้ความสนใจต่อผลประโยชน์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับเศรษฐกิจในอนาคตน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม ข้อวิจารณ์ของชฮาเกอก็มีการโต้แย้งกลับจากกุนเทอร์ เอิตทิงเงอ กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของอียูซึ่งบอกว่าการกำหนดข้อกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นอาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ "ควบคุมมากเกินไป" ซึ่งส่งผลชะลอการพัฒนาทางดิจิทัลบางด้าน โดยเอิตทิงเงออ้างว่าอียูกำลังต้องการนวัตกรรมและการลงทุนในหลายด้านเช่นด้านการแพทย์ การเงิน และการขนส่ง ผ่านความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็วได้
เอิตทิงเงอกล่าวยืนยันอีกว่าในเรื่องการให้บริการพิเศษทางอินเทอร์เน็ตจะมีการเจาะจงให้บริการเฉพาะ "เรื่องที่เป็นผลประโยชน์ต่อสาธารณะ" เท่านั้น เช่น บริการฉุกเฉิน หรือบริการสาธารณสุข และกล่าวเปรียบเทียบกับข้อกำหนดทางอินเทอร์เน็ตของสหรัฐฯ ว่าการควบคุมจัดการของยุโรปเป็นไปอย่าง "เป็นประชาธิปไตย"
เว็บไซต์เทคครันช์ระบุว่าถึงแม้จะมีการตรวจสอบให้ทุกประเทศสมาชิกภาพอียูใช้กฎหมายความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ตฉบับนี้ แต่อำนาจในการตีความกฎหมายก็เป็นของประเทศสมาชิกในแต่ละประเทศเอง ซึ่งอาจจะทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายนี้ในหลายรูปแบบ เช่นการตีความคำว่า "ผลประโยชน์ต่อสาธารณะ" ในแต่ละประเทศอาจจะต่างกัน
เทคครันช์ยังนำส่วนหนึ่งของข้อกฎหมายมาเปิดเผยอีกว่าไม่ได้มีการระบุถึงการให้บริการพิเศษเฉพาะเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างที่เอิตทิงเงอกล่าวอ้าง แต่คำว่า "เรื่องที่เป็นผลประโยชน์ต่อสาธารณะ" ถูกอ้างถึงแค่ในส่วนที่เป็นการยกตัวอย่างเท่านั้น
เรียบเรียงจาก
Europe Agrees EU-Wide Net Neutrality Rules And End To Mobile Roaming Fees, Tech Crunch, 28-10-2015
http://techcrunch.com/2015/10/27/ep-telecoms-vote/
Bringing down barriers in the Digital Single Market: No roaming charges as of June 2017, 27-10-2015
http://europa.eu/rapid/press-release_IP-15-5927_en.htm