11 พ.ย. 2558 รายงานแจ้งว่า ที่กรมควบคุมมลพิษ ถนนพหลโยธิน นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา ประชุมร่วมกับนางสาวจงจิตร์ นีรนาทเมธีกุล รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ถึงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่ปนเปื้อนสารตะกั่วจากกิจกรรมเหมืองแร่ ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2556 ที่ให้กรมควบคุมมลพิษชดใช้ค่าเสียหายและฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ให้ปราศจากมลพิษโดยมีค่าไม่เกินมาตรฐาน
นางสาวจงจิตร์ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2559 เพื่อดำเนินการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้แล้ว และได้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้เสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน โดยจะดำเนินการฟื้นฟูและติดตามประเมินการดำเนินการระยะเวลา 20 ปี ตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2559 ถึง 2578 ใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการร่างข้อกำหนดในการว่าจ้างหรือ TOR เพื่อเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างดำเนินการต่อไป ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ซึ่งมีขั้นตอนในการขออนุญาตพอสมควร
นอกจากนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ จึงจะแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อติดตามตรวจสอบการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ที่ประกอบด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาควิชาการและองค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนชาวบ้านคลิตี้ที่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ลำห้วยคลิตี้ปนเปื้อนของเสียจากการปล่อยลงสู่ลำห้วยของกิจกรรมเหมืองแร่มากว่า 40 ปี เป็นข่าวใหญ่รับทราบทางสังคมมา 17 ปี และศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษเร่งดำเนินการฟื้นฟู เกือบครบ 3 ปีแล้ว แต่การฟื้นฟูก็ยังไม่เริ่มต้น ทำให้ชาวบ้านคลิตี้ยังได้รับผลกระทบและเจ็บป่วยตลอดมา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งการฟื้นฟูและเยียวยาชาวบ้าน นอกจากนี้กรมอุทยานฯและกรมป่าไม้มีหน้าที่ตามกฎหมาย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 มาตรา 22 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 25 ที่จะต้องเข้ามาดำเนินการต่อสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้สภาพธรรมชาติผิดไปจากเดิม เพื่อบรรเทาความเสียหาย จึงขอเรียกร้องให้กรมอุทยานฯและกรมป่าไม้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยร่วมกับกรมควบคุมมลพิษฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้โดยเร็วที่สุด