
นครศรีธรรมราช - นายพงศ์เทพ ไขมุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยถึงการประชุมจัดตั้งสภาเครือข่ายองค์กรชาวสวนยางพาราจังหวัดนครศรี ธรรมราช เพื่อให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า มีกลุ่มองค์กร/ภาคีเครือข่ายชาวสวนยางหลายองค์กร/หลายกลุ่ม แต่ยังขาดความเข้มแข็ง และขาดเอกภาพในการขับเคลื่อน จึงตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.ดังกล่าว
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความอยู่ดีกินดีของเกษตรกรชาวสวนยาง เข้าถึงสวัสดิการต่างๆ จากภาครัฐ แต่ยังสามารถสังกัดกลุ่ม องค์กร/ภาคีเครือข่ายเดิมต่อไปได้ ขอให้หน่วยงานผู้ที่เกี่ยวข้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทางเจ้าของสวนยางต้องขึ้นทะเบียนให้ครบทุกแปลงไม่จำกัดจำนวนไร่และอายุของต้นยางพารา ที่มีเอกสารหลักฐานที่ดินถูกต้อง รวมทั้งผู้เช่าสวนยาง ผู้ทำสวนยาง คนกรีดยาง/ผู้รับจ้างกรีดยางก็ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรด้วย และต้องสังกัดสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางองค์กรใดองค์กรหนึ่ง
การขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง เป็นคนละส่วนกันกับมติครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขออนุมัติงบฯ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยชดเชยต้นทุนการผลิตรายละไม่เกิน 15 ไร่ แต่เป็นการขึ้นทะเบียนเพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของชาวสวนยาง ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย
ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วย ตัวแทนจากทุกองค์กรภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยาง องค์กรละ 1 คน ทำหน้าที่ในการยกร่างวัตถุประสงค์ ระเบียบข้อปฏิบัติหรือข้อตกลง/ข้อบังคับขององค์กร ตั้งชื่อองค์กรใหม่ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไรให้ครอบคลุมและเป็นที่ยอมรับของทุกเครือข่าย จะนัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง