ปัดออกกฎเหล็กห้ามทำนาปรัง กรมชลเน้นสร้างความเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย. 2558 ทั้ง 4 เขื่อน มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกันทั้งสิ้น จำนวน 10,940 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนรวมกัน(15 พ.ย.) ทั้งสิ้น 24.48 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่มีการใช้น้ำรวมกันประมาณวันละ 15.58 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 4,244 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพการเพาะปลูกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่าในบางพื้นที่เกษตรกรเริ่มมีการทำนาปรังกันไปบ้างแล้ว นับว่าเสี่ยงมากต่อการที่ผลผลิตจะเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ไม่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ซึ่งกรมชลประทาน ได้มีการสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือ จากทุกภาคส่วนไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยย้ำเสมอว่า แม้ว่ากรมชลประทาน จะไม่สามารถไปห้ามเกษตรกรไม่ให้ทำการเพาะปลูกได้ แต่ได้พยายามสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือ ในเรื่องของการจัดการน้ำร่วมกัน มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้ตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้

สำหรับการสูบน้ำตามสถานีสูบน้ำต่างๆ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยขอให้กำชับและควบคุมการสูบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานีสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค ให้สูบน้ำตามกฎกติกา รอบเวรการสูบน้ำที่ได้ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนและเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้งต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและจริงจัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่รุนแรงได้ในอนาคตอันใกล้นี้

หมวดหมู่ของข่าว: 
แหล่งข่าว: 
แนวหน้า

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด