วันที่ 19 พ.ย. ที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ ถ.งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผอ.มูลนิธิ และนางดาวัลย์ จันทรหัสดี แกนนำการต่อสู้คัดค้านโครงการบ่อบำบัดนํ้าเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ร่วมแถลงขอให้รัฐบาลทบทวนมติจ่ายซ้ำค่าโง่คลองด่าน 9.6 พันล้านบาท
น.ส.เพ็ญโฉมกล่าวว่า ชาวบ้านคลองด่านและมูลนิธิขอคัดค้านและให้ทบทวนมติครม. ที่เห็นชอบให้สำนักงบประมาณจ่ายเงินกว่า 9.6 พันล้านบาทให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSG ไม่เข้าใจว่าทำไมรีบร้อนจ่าย ในเมื่อคดีอาญากรณีการฉ้อโกงสัญญาที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นผู้ฟ้องคดีบริษัทเอกชน 19 รายยังไม่ถึงที่สุด ทราบว่าจะมีคำพิพากษาเร็วๆ นี้
น.ส.เพ็ญโฉมกล่าวว่า ที่สำคัญรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับผิดชอบต่อการจ่ายค่าโง่คลองด่าน เช่นเดียวกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องรับผิดชอบต่อกรณีทุจริตการจำนำข้าว เพราะหากรัฐบาลผลีผลามจ่ายโดยไม่รอฟังผลการพิจารณาของศาลฎีการัฐบาลจะไม่สามารถทวงเงินที่จ่ายให้บริษัทเอกชนกลับคืนสู่รัฐได้อีกเลย รัฐบาลควรขอคำแนะนำจากคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าควรจะชำระเงิน 9.6 พันล้านบาทหรือไม่ รวมทั้งศึกษาคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองที่สั่งจำคุกนายวัฒนา อัศวเหม เป็นเวลา 10 ปี ส่วนหนึ่งของคำพิพากษาระบุไว้ว่า กรณีนี้มีความผิดเนื่องจากมีการใช้อำนาจอันมิชอบในการรวบรวมที่ดินอันเป็นเหตุให้ที่มาของการทำสัญญาโครงการไม่ถูกต้องไปด้วย
นางดาวัลย์กล่าวว่า ขณะนี้ ทส.จ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 300 ล้านบาท ศึกษาความเป็นไปได้การเดินหน้าบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน หากเดินหน้าต้องเสียอีกนับหมื่นล้านบาทให้กลุ่มเอกชนเพราะต้องทำใหม่ทั้งหมด เพราะขณะนี้สภาพบ่อบำบัดแตก ทรุด พัง รกร้าง ขณะที่พื้นที่ตั้งต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ไม่สามารถกำจัดสารโลหะหนักได้ ควรหยุดทำมาหากินกับโครงการนี้ได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงบประมาณจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับกลุ่มเอกชนในวันที่ 21 พ.ย.นี้ งวดแรก 3,174 ล้านบาท และอีกกว่า 21.71 ล้านเหรียญสหรัฐ