"สหรัฐ" ผิดหวังกระบวนการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยของไทยล่าช้า ชี้่ความสัมพันธ์อยู่ในระดับ "ท้อแท้ใจอย่างไม่น่าเชื่อ"
นายสกอตต์ บัสบี รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และแรงงาน เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อคณะกรรมาธิการด้านวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา เมื่อวันพฤหัสบดี ว่ามีความเสื่อมถอยมากขึ้นในระยะหลัง เนื่องจากประชาชนในภูมิภาคหลายล้านคน เช่นลาวและเวียดนาม ยังคงตกอยู่ภายใต้อำนาจของรัฐบาลที่กดขี่และเป็นเผด็จการ
ขณะที่นายเจมส์ คารูโซ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่ารัฐบาลวอชิงตันมีความกระตือรือร้นที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับไทยให้กลับมาอยู่ในระดับเต็มรูปแบบดังเดิมอีกครั้ง ทันทีที่กฎของประชาชนได้รับการฟื้นฟู ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคนี้ของรัฐบาลวอชิงตัน อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับไทยอยู่ในระดับ "เป็นที่น่าท้อแท้ใจอย่างไม่น่าเชื่อ"
คารูโซกล่าวว่า การที่รัฐบาลทหารซึ่งเข้ามาบริหารประเทศ หลังการรัฐประหารเมื่อเดือนพ.ค. 2557 เลื่อนระยะเวลาจัดการเลือกตั้งออกไปเป็นช่วงกลางปี 2560 อีกทั้งกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังขาดความชัดเจนและแน่นอน ส่งผลให้ระบอบการปกครองของไทยอยู่ในภาวะคตินิยมอำนาจรัฐ จึงเป็นการยากที่สหรัฐจะโน้มน้าวให้ทางการไทยเลือกเดินบนเส้นทางอันเด็ดเดี่ยวในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจอนาคตของประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ สิ่งที่รัฐบาลวอชิงตันสามารถทำได้มากที่สุดในเวลานี้ คือการเพียงขอให้กระบวนการทุกอย่างดำเนินไปตามกรอบระยะเวลา
นอกจากนี้ คารูโซยังกล่าวถึงประเด็นที่รัฐบาลไทยหันไปเสริมสร้างความสัมพันธ์กับจีนมากขึ้นอย่างชัดเจน ว่าเป็นยุทธวิธีในการใช้อิทธิพลของรัฐบาลปักกิ่งขึ้นมาเป็นเกราะกำบังไม่ให้สหรัฐกดดันเรื่องนโยบายปฏิรูปประเทศมากเกินไป แต่คารูโซยืนยันว่าท่าทีดังกล่าวของไทยไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะเดียวกัน คารูโซยังวิจารณ์สถานการณ์การเมืองในมาเลเซียด้วยว่า เสรีภาพด้านสิทธิพลเมืองลดระดับต่ำลงมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวเรื่องการคอร์รัปชั่นของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตรียมหยิบยกประเด็นสำคัญทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้