นายเจษฎา มิ่งสมร ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) กล่าวว่า เครือข่ายสมัชชาสุขภาพติดตามและตรวจสอบสุขภาวะชาวนา พบว่าชาวนาไทยเกิดปัญหาสุขภาวะทั้งภายในและภายนอก 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.สุขภาวะทางกาย เกิดจากสภาพแวดล้อมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในการทำงานทั้งความเสี่ยงต่อสารเคมี เชื้อโรคจากสภาพแวดล้อม และวิธีการทำงานที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหักโหม
2.สุขภาวะด้านจิตใจ การขาดทุนซ้ำซาก ทำให้ชาวนาไทยจำนวนไม่น้อยเกิดภาวะความเครียดและซึมเศร้า นำไปสู่ปัญหาอื่นตามมา เช่น การฆ่าตัวตาย ยาเสพติด การสิ้นเนื้อประดาตัว หรือการย้ายถิ่นเพื่อประกอบอาชีพอื่น
3.สุขภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม เกิดจากภาระต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นจากหลายสาเหตุ เพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มากที่สุด แต่กลับได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ รวมทั้งอิทธิพลจากกระแสบริโภคนิยมและไม่พึ่งตนเอง
และ 4.สุขภาวะด้านปัญญา เกิดการสูญเสียวิถีการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิม มุ่งเน้นการเกษตรเชิงพาณิชย์มากเกินไป
"การแก้ปัญหาในเรื่องสุขภาวะชาวนา อาทิ ส่งเสริมการผลิตปลอดภัย สนับสนุนการใช้หลักการตลาดนำการผลิต เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนา และพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวนาให้ดีขึ้นสามารถพึ่งตนเองได้ ทั้งนี้ ปัญหาสุขภาวะชาวนาเป็นหนึ่งในวาระการพิจารณาภายในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2558 จะจัดขึ้นวันที่ 21-23 ธ.ค. ที่อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี ซึ่งเชื่อว่าเมื่อผ่านเป็นสมัชชาสุขภาพจะทำให้เกิดนโยบายสาธารณะที่จะขับเคลื่อนแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบต่อไป"
นายเจษฎากล่าวว่า การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 นอกจากวาระเรื่องสุขภาวะชาวนาแล้ว ยังมีการเสนอระเบียบวาระสำคัญอีก 4 เรื่อง ได้แก่ 1.วิกฤตการณ์เชื้อแบคทีเรียดื้อยาและการจัดการปัญหาแบบบูรณาการ 2.ระบบสุขภาพคนเมือง : การพัฒนาระบบบริการสุขภาพอย่างมีส่วนร่วม 3.นโยบายการลดการบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อลดโรคไม่ติดต่อ และ 4.การจัดการปัญหาหมอกควันที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเมื่อผ่านความเห็นชอบจากการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติแล้ว จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน