เราขออธิบายกับสื่อมวลชนว่า พวกเราเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนทั้ง 11 องค์กรไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว ที่จะหยุดยั้งการเจรจาที่จะสร้างข้อตกลงที่จะส่งสร้างผลกระทบต่อผู้ป่วย เกษตรกร คนยากคนจน ประชาชนทั่วไป และแม้แต่แย่งยึดทรัพยากร และอธิปไตยของชาติ ปล้นเอาสิ่งนี้ไปจากพวกเราประชาชนไทยทั้งปวง
พวกเราประชาชนนับหมื่นคนที่ออกมาเดินบนท้องถนนในครั้งนี้ เป็นตัวแทนของประชาชนจำนวนนับล้านคนที่รู้สึกเช่นเดียวกับเรา แต่เขาไม่สามารถแสดงออกใด ๆ ได้ เนื่องจากการผูกขาดและรวมศูนย์อำนาจของรัฐ เนื่องจาก พ.ต.ททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า ท่านจะไม่รับฟังแม้แต่รัฐสภา และรัฐสภานั้นก็ไม่มีผู้รู้เพียงพอที่จะตัดสินใจ เราแปลกใจ และรู้สึกยากที่จะรับได้ว่า แม้แต่สมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติ ซึ่งพรรครัฐบาลได้คัดเลือกให้มาลงสมัครรับเลือกให้เป็นผู้แทนของปวงชนไปนั่งในสภา หาได้มีความสามารถในการตรวจสอบ กำหนดนโยบายของรัฐ
เราทราบแม้กระทั่งว่า คณะเจรจา ฯ ซึ่งท่านอ้างว่า เป็นผู้รอบรู้และได้ตัดสินใจในการเจรจาแทนคนส่วนใหญ่ในแผ่นดินได้นั้น คณะเจรจาอย่างน้อย 2 กลุ่ม ยืนยันชัดเจนในจุดยืนของเขาเช่นเดียวกับพวกเราที่เดินบนท้องถนน แต่นโยบายข้างบนได้บีบบังคับคนเหล่านี้ เกลี้ยกล่อมคนเหล่านี้ให้ยอมตามข้อเสนอของอเมริกา แทนที่คณะเจรจาจะเจรจากับผู้เจรจาของฝ่ายสหรัฐ กลับมาเจรจากับพวกเดียวกันเอง แล้วพวกเราจะหวังอะไรได้เล่าในการเจรจาข้อตกลงที่มีผลต่ออนาคตของชาติและพวกเราเช่นนี้
เราเคลื่อนไหวด้วยความสงบด้วยสันติวิธี ก่อนที่เราจะเดินทางมาถึงที่โรงแรมอันหรูหราอันเป็นสถานที่เจรจาแห่งนี้ เราเดินมา 5 ก้าว แล้วก้มกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก้มกราบพระธาตุดอยสุเทพ ก้มกราบครูบาศรีวิชัย ก้มกราบบรรพกษัตริย์และบรรพบุรุษของเรา เราก้มกราบผีปู่ย่าตายายซึ่งรักษาแผ่นดินจนหลงเหลือมาให้เราอยู่อย่างสุขสงบ ก้มเกรบบภูเขา แม่น้ำซึ่งหล่อเลี้ยงให้เรามีชีวิตอย่างพอเพียง และอย่างสุขสงบ เราก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อขอขวัญ และพลังในการยืนหยัดต่อสู้รักษาผืนแผ่นดิน ทรัพยากร ทรัพย์สมบัติของชาติให้อยู่ถึงลูกถึงหลาน เหมือนดังที่บรรพบุรุษได้รักษามาไว้ให้พวกเรา
เราก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ เพราะเราไม่มีทางเลือกอื่นใด เราต้องการที่จะก้าวเข้ามาบอกคณะผู้เจรจาฝ่ายไทย และคณะผู้เจรจาฝ่ายสหรัฐ นี่เป็นช่องทางเดียวที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ได้บัญญัติไว้ว่า ประชาชนย่อมมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะเสนอความคิดเห็นทางการเมือง และการพัฒนาประเทศ เราจึงเข้ามาด้วยความสงบ ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์มิได้มุ่งร้ายต่อผู้ใดทั้งสิ้น เราเพียงแต่อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยความหวังว่าผู้บริหารที่หลงผิดไปนั้น จะเห็นชอบแทนผิด และมุ่งสู่หนทางที่ถูกต้องต่อไป
เราเข้ามาในห้องนี้เพื่อประกาศต่อรัฐบาลไทย และรัฐบาลสหรัฐว่า ประชาชนทั้งประเทศ ประชาชนทุกภาค ประชาชนเกือบทุกสาขาอาชีพ ไม่อาจยอมรับการเจรจาครั้งนี้ได้ เราขอประกาศในนามของประชาชนทั้งประเทศ ?หยุดการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐ โดยสิ้นเชิง?
พี่น้องสื่อมวลชน และประชาชนทั่วประเทศที่เคารพ การหยุดการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของประชาชน ในการหยุดการทำเอฟทีเอที่มีผลต่อชีวิตของเรา หากแม้นผู้หนึ่งผู้ใดจะผลักดันให้มีการเจรจาต่อไปขอประกาศให้รู้ว่าบุคคลและคณะเหล่านั้นไม่ใช่ตัวแทนอันชอบธรรมของประชาชนทั้งหมด ประชาชนทั้งประเทศที่มากกว่านี้ อีกร้อยเท่า พันเท่า จะออกมารวมพลังกันเพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนทั้งประเทศต้องการแผ่นดินของเราคืนมา ต้องการทวงอำนาจอธิปไตย แสดงจุดยืน และความประสงค์ของพวกเรา
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ไม่ได้มาร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ จะช่วยกันจับตาดู และจะหลั่งไหลมาร่วมกับพวกเรา และหากผู้บริหารประเทศผู้ยังเต็มไปได้โลภจริต โมหจริต ยังไม่นำพาต่อเสียงของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ประชาชนทั้งแผ่นดินจะออกมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง
แล้วเมื่อถึงวันนั้น เราจำเป็นที่จะต้องบอกว่า อย่าว่าแต่ข้อตกลงเขตการค้าเสรีเลยที่ไม่อาจมีได้ แม้กระทั่งรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่อาจอยู่บริหารประเทศได้เช่นเดียวกัน
ประกาศมา ณ วันที่ 10 มกราคม 2549
ณ โรงแรมเชอราตัน จ.เชียงใหม่
เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ แห่งประเทศไทย,เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก, สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค จ.ลำปาง,เครือข่ายป่าไม้-ที่ดิน 4 ภาค, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ, เครือข่ายสลัมสี่ภาค,สภาเครือข่ายองค์กรประชาชนแห่งประเทศไทย, สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์,สมัชชาคนจน, สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศ(สนนท.)และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน(FTA Watch)