เมื่อแผ่นดินสิ้นจริยธรรม

เปลวสีเงิน

2 ก.พ. 49

ท่านทั้งหลาย หลังจากที่พวกเราอดทนมาเป็นเวลานานกับพฤติกรรม "ครอบครัวชินวัตร" แต่มาถึง ณ วันนี้ หลังจากที่ฟัง "นายสุวรรณ วลัยเสถียร"

ขี้ข้าที่ออกมาแก้ต่างกรณีหุ้น Ample Rich แล้ว ก็แน่ชัดว่า ครอบครัวชินวัตรตีค่าประชาชนเหมือนควายฝูงหนึ่ง จะจูงจมูกไปทางไหนมันก็..ไอ้ควายดีๆ นี่เอง!

เราจะสรุปความเป็นมาเฉพาะส่วนนี้ให้ฟังกันอีกครั้ง เพื่อตั้งความเจ็บปวดไว้บนปลายเข็มแหลมเล่มเดียวกัน ดังนี้

12 มีนาคม 2542 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปตั้งบริษัท Ample Rich Investment Ltd ไว้ที่ บริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ส อันเป็นแหล่งเพื่อการหนีภาษี และแหล่งฟอกเงิน

ตั้งเสร็จก็โอนหุ้นชินคอร์ปจำนวน 329.2 ล้านหุ้นเข้าไปไว้ที่บริษัทนี้

20 มกราคม 2549 นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ก็แจ้ง ก.ล.ต.ว่า ได้ซื้อหุ้นชินจาก Ample Rich คนละ 164.6 ล้านหุ้น ผ่านตลาดหลักทรัพย์ในราคาหุ้นละ 1 บาท

23 มกราคม 2549 นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ก็แจ้งต่อ ก.ล.ต.ว่าได้ขายหุ้นที่ซื้อมาทั้งหมดรวมไปในรายการบิ๊กล็อตให้กับเทมาเซก ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท

30 มกราคม 2549 ก.ล.ต.ประกาศว่า นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา และ Ample Rich แจ้งขอแก้ไขว่า ที่บอกว่าซื้อ ผ่านตลาดหุ้น นั้น ขอแก้ไขเป็น ซื้อ นอกตลาดหุ้น

ทาง ก.ล.ต. จึงให้นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา และ Ample Rich ชี้แจงรายละเอียดภายใน 7 วันในประเด็นว่า

บุคคลทั้งสองมีความเกี่ยวพันกับ Ample Rich ตั้งแต่เมื่อใด และมีหน้าที่ต้องรายงานการถือครองหลักทรัพย์ หรือทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์มาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่?

1 กุมภาพันธ์ 2549 นายสุวรรณ วลัยเสถียร ในฐานะตัวแทนครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ แถลงฟอกครอบครัวทั้ง 2 บนมูลค่า 73,000 ล้านบาทด้วยข้อความในกระดาษ 2 แผ่น

สรุปสารหลักในคำแถลง คือ

1.ยอมรับ Ample Rich เป็นบริษัทที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปตั้งขึ้นที่เกาะฟอกเงิน และโอนหุ้นชินไปไว้ 329.2 ล้านหุ้น

2.อ้างการทำเช่นนี้ว่าเพื่อเตรียมนำหุ้นไปซื้อขายในตลาด NASDAQ ที่สหรัฐ แต่ตลาดไม่ดี เลยล้มแผน หุ้นส่วนนี้จึงคาราคาซังเรื่อยมา

3.อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขายหุ้นบริษัท Ample Rich ทั้งหมดให้นายพานทองแท้ก่อนเลือกตั้งปี 44 ก.ล.ต.เคยสอบถาม เมื่อ 11 ก.ค. 44 และ Ample Rich ตอบยืนยันการขายไปเมื่อ 25 ก.ค. 44

4.อ้างว่า 15 พ.ค. 48 ได้ แจ้งเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ใน Ample Rich โดยให้ น.ส.พิณทองทาเข้ามาถือหุ้น 20% นายพานทองแท้ 80% จนถึงปัจจุบัน

5.แถลงว่านายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา เอาหุ้นชินใน Ample Rich หรือ เอาหุ้นของตัวเองมาขายให้กับตัวเอง เมื่อ 20 ม.ค. 49 หุ้นละ 1 บาท ถือว่าผู้ซื้อ-ผู้ขายเป็นคนกลุ่มเดียวกัน จึงไม่เป็นการใช้ข้อมูลภายในมาสร้างประโยชน์จากการซื้อขาย

6.ที่แจ้งว่าซื้อขายในตลาด นั้น เขาแถลงอ้างว่า "กาเครื่องหมายผิดช่อง" คือที่เขาต้องการกาคือช่อง ซื้อขายนอกตลาด

7.เรื่องภาษีจากการซื้อขายหุ้น Ample Rich นี้ นายสุวรรณระบุว่า ได้หารือกับกรมสรรพากร และทางกรมสรรพากรได้มีหนังสือตอบลงวันที่ 12 ก.ย. 48 ว่าในกรณีเช่นนี้ ไม่ต้องเสียภาษี

ครับ..พอปะติดปะต่อเส้นทางรวยตามแบบฉบับครอบครัวชินวัตรกันเข้าใจแล้วนะครับ

ประเด็นแรกที่ผมต้องการให้ท่าน พ่อ-แม่-พี่-น้อง ประชาชนทั้งหลายได้ทราบ ความเลวทรามทั้งหลายทั้งปวงอันอาจมีครั้งนี้ ความอัปยศ-อดสูแห่งแผ่นดินนี้

จะเกิดขึ้นไม่ได้ หรือเกิดขึ้นแล้วก็ต้องถูกจับได้ ถ้า..

เจ้าพนักงานแห่งรัฐทั้งหลาย เรื่อยไปตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) เจ้าหน้าที่กำกับตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต.) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ อธิบดีกรมสรรพากร ปลัดกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง

รวมไปถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา คณะรัฐมนตรี และผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารประเทศ คือ นายกรัฐมนตรี

ไม่ทรยศต่อคำสัตย์ปฏิญาณอันเป็น "สัจจะแห่งหัวใจ" ที่จะปฏิบัติหน้าที่ยึดมั่น

ความซื่อสัตย์ ความสุจริต ยึดหลักจริยธรรม ศีลธรรม และคุณธรรม ควบคู่ไปกับการใช้กฎหมาย และกฎกติกาสังคม และจะปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจ "ต่างพระเนตร-ต่างพระกรรณ" สนองคุณแผ่นดิน เพื่อยังประโยชน์อันสมบูรณ์แก่ ชาติ ประชาชน อันเป็นส่วนรวม

ณ บัดนี้ เป็นที่ประจักษ์แน่ชัดแล้วมิใช่หรือว่า ทุกขั้นตอน ทุกกระบวน และทุกสิ่งทุกอย่างล้วน..เพื่อมัน!?

มีการปูทาง-วางแผน แล้วร่วมมือซิกแซ็กกันโดยตลอดระหว่างคณะบุคคลกลุ่มหนึ่ง กับข้าราชการ ทั้งข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำ อันเป็นเจ้าหน้าที่แห่งรัฐกลุ่มหนึ่ง

มีการตีความใช้กฎหมายไปคนละทาง-สองทาง มีการแก้ไขกฎหมาย-กฎระเบียบเป็นขั้นตอน มีการปกปิด-สมรู้ร่วมคิด รับใช้ทุนทรราชกันอย่างสิ้นยางอาย

ไร้หิริ-โอตตัปปะ ปากต่างพร่ำเคารพ เทิดทูน แม้ชีพนี้ก็พร้อมพลีได้ แต่การกระทำล้วนประจักษ์ต่อสายตาสังคมแล้วมิใช่หรือว่า มันเหยียบย่ำทรยศแผ่นดิน มันสุมหัวกันเอารัดเอาเปรียบสังคม ความเหิมเกริมด้วยหยาบช้าเช่นนี้

ไม่เคยปรากฏมาก่อนในแผ่นดิน แม้ในยุคเผด็จการอำนาจครองเมืองก็ตาม!

ขณะนี้ ขบวนการเนรคุณชาติ-ประชาชน และแผ่นดิน มันทำลายความน่าเชื่อถือระบบรัฐ จนรัฐ..

ใกล้ล่มสลายแล้ว!

นักการเมืองกับข้าราชการประจำกลุ่มหนึ่ง มีพฤติกรรมแน่ชัดบ่อนทำลาย และพร่าผลาญผลประโยชน์ประเทศชาติไปเพื่อพลีประโยชน์เฉพาะบุคคล เฉพาะกลุ่ม

ซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่า ต่อเนื่องกันมา

ประเทศชาติบอบช้ำ ประชาชนหัวทิ่มหัวตำกับอบายมุขและสิ่งหลอกล่อจนโงหัวไม่ขึ้น มองอนาคตชาติผ่านเยาวชนที่ต้องเป็นกำลังหลักในวันหน้า นอกจากอภิมหาเศรษฐี "โอ๊ค-เอม" แล้ว

นอกนั้นตกอยู่ในภาวะกะปลกกะเปลี้ย สูญสิ้นสภาพความเป็น "ทรัพยากรบุคคลคุณภาพ" เพื่อแข่งขันที่สมดุลกับทั้งอารยชาติและอนารยชาติในอนาคต

ผมต้องการถามว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีครับ ฯพณฯ ประธานรัฐสภาครับ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติครับ และท่านข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งหลายครับ

กับคำแถลงของนายสุวรรณ วลัยเสถียร วานนี้ ภายใต้บารมียิ่งใหญ่ของรัฐบาลทักษิณ-ไทยรักไทย

นายสุวรรณประกาศให้สาธารณชนทราบแล้วว่า ทุกขั้นตอนไม่ได้ปิดบัง-ซุกซ่อน ไม่ได้ทำเองโดยพลการ ทั้งนี้-ทั้งนั้น

ปรึกษาหารือ และผ่านการรับรู้-รับทราบทั้งจาก กรมสรรพากร และทั้งจาก ตลท.และ ก.ล.ต.มาแล้วทั้งสิ้น!

ท่านผู้บริหารประเทศ และท่านข้าราชการทั้งหลายครับ ท่านรู้สึกเหมือนถูกถุยน้ำลายใส่หน้าบ้างไหมครับ รู้สึกเหมือนมีหมาเยี่ยวใส่ปากท่านบ้างไหมครับ รู้สึกว่าเกียรติภูมิสถาบันชาติถูกทำให้ลดต่ำลงบ้างไหมครับ?

และนับตั้งแต่เรื่องนี้ปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลาย ในฐานะผู้บริหารแผ่นดิน ในฐานะผู้ทำงานต่างพระเนตร-พระกรรณ ท่านได้กระทำอะไรอันชื่อว่า

ทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์ชาติ ปกป้องผลประโยชน์ประชาชนให้เป็นที่ประจักษ์บ้าง?

เงียบ!

ไล่ลงมาตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี รัฐสภา เรื่อยลงมาถึงข้าราชการอันเป็นระดับสนองนโยบาย

สากทั้งนั้น!

กลไกรัฐไม่ขยับเพื่อทำหน้าที่พิทักษ์ประโยชน์ชาติ-แผ่นดิน ถึงขนาดว่าสิงคโปร์ใกล้จะยึดครองประเทศไทยเชิงนโยบายไปเบ็ดเสร็จแล้ว

ระดับรัฐบาล ระดับข้าราชการ อันเป็นชนชั้นปกครอง ยังเงยหน้าที่ซุกอยู่หว่างขา "ใครบางคน" ไม่ขึ้น!

เปล่าประโยชน์ที่จะพูดกันด้วยเหตุผลแล้ว ไม่มีความหวังจะเห็นจริยธรรมตามหลักธรรมาภิบาลในรัฐบาลนี้แล้ว ไม่มีความผิด-ความถูกแล้ว

มีแต่..กูต้องการ ทุกคนต้องคลานให้กูกับตระกูล!

ประชาชนที่รัก ท่านยังเต็มใจที่จะเป็นควายให้ครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์สนตะพายลากไปทางไหน-ก็ยอมไปกับเขาง่ายๆ อย่างนี้ต่อไปอีกหรือ?

ประชาชนที่รัก ด้วยภาวการณ์อันประจักษ์ชัดขณะนี้ ในเมื่อกลไกรัฐ-เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ทำหน้าที่พิทักษ์ความถูกต้อง ไม่เทิดทูนจริยธรรมให้แผ่นดิน

ก็เป็นหน้าที่ของประชาชนอย่างพวกเรามิใช่หรือ ที่ต้องรวมพลัง "พิทักษ์แผ่นดินคุณธรรม"

ก่อนที่ "ชินวัตร" และ "ดามาพงศ์" จะขยายวงศ์เป็น "แผ่นดินพงศ์ชินวัตร"

หมวดหมู่ของข่าว: 

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด